เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จัก “หนังสั้น” กันเป็นอย่างดี แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า หากวันหนึ่งนั่งเล่นนอนเล่นแล้วอยู่ดีๆ อยากทำหนังสั้นขึ้นมาสักเรื่องแล้วล่ะก็ จะต้องเริ่มต้นอย่างไร
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า นี่ไม่ใช่ตำราที่เต็มเปี่ยมอัดแน่นไปด้วยข้อมูลเชิงวิชาการ แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์การทำหนังสั้น จากตัวผมเองซึ่งก็เคยผ่านและเป็นพยาน ในฐานะของผู้ร่วมออกกองของการทำหนังสั้นทุกรูปแบบ ตั้งแต่แบบคนไม่มีตังค์เลยสักแดงเดียว ไปจนถึงการถ่ายทำกล้องฟิล์ม 35 มม. ด้วยอุปกรณ์ชั้นเลิศ ไม่ว่าผู้กำกับจะเป็นชายหนุ่มไฟแรง หรือหญิงสาวที่จิตใจเริ่มสงบนิ่ง เป็นการเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องราวต่างๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์แก่คนที่ได้อ่านบ้าง ว่ากว่าจะทำหนังสั้นออกมาได้เรื่องหนึ่งนั้น จะต้องนำเอาอะไรมาประกอบรวมกันบ้าง ข้อจำกัดและทุนรอนที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน จะทำให้สามารถสร้างหนังสั้น “ได้ใกล้เคียง” หรือ “ใช่” ในแบบที่อยากทำได้มากน้อยแค่ไหน หากเปรียบสิ่งนี้เป็นการขี่จักรยานครั้งแรกของคุณ คู่มือฉบับนี้ก็เป็นเหมือนคนที่จะคอยพยุงจนกว่าที่คุณจะสามารถขี่เองได้อย่างมั่นคง
เพื่อที่ต่อไปในวันข้างหน้า คุณจะสามารถเริ่มออกแรงขี่จักรยาน โดยไม่ต้องพึ่งพาใครอีกต่อไป
คำนิยามของ “หนังสั้น”
หนังสั้นก็มีจุดกำเนิดพร้อมกันกับหนังโรงที่เราดูกันเป็นปรกติทุกวันนี้แหละครับ หนังเรื่องแรกของโลก เมื่อคนยุคสมัย 100 กว่าปีก่อนได้เข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง และได้เห็นภาพที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือรถไฟค่อยๆ จอดเทียบชานชาลา พวกเขาเชื่อว่าตนเองเกือบจะโดนรถไฟชนซะแล้ว! นั้นแหละครับคือจุดเริ่มต้นของคำว่า “ภาพยนตร์” หนึ่งในมหรสพที่คนทุกผู้ทุกนามไม่อาจจะปฎิเสธได้ในวันนี้
แล้วหนังสั้นคืออะไร? ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดิน หนังสั้นก็คือหนังที่ไม่ยาว ผมเชื่อว่าหากใครตอบแบบนี้ก็ไม่น่าจะผิด แม้แต่หนังเรื่องแรกของโลกที่ผมได้กล่าวถึงไป ก็เป็นหนังสั้น มันมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ดำเนินและจบลงอย่างรวดเร็ว หนังสั้นทั้งหมดมักจะมีเรื่องราวหลักเพียงเรื่องเดียว
ถ้าเป็นไปในนิยามโดยคนยุคนี้ ก็มักจะกำหนดให้หนังสั้นยาวไม่เกิน 30 หรือ 40 นาที เพราะเชื่อว่าเป็นความยาวที่พอเหมาะ แต่ถ้าหากสงสัยว่าแล้วหนังสั้นจะ “สั้น” ได้มากที่สุดเท่าไหร่ เพราะบางคนเชื่อว่าหนังสั้นที่สุดอย่างน้อยก็ควรยาวกว่า 15 วินาที แต่เชื่อไหมว่า คุณสุรพงษ์ พินิจค้า เคยทำหนังที่มีความยาวเพียง 4 เฟรมมาแล้ว คำถามต่อมาก็คือ แล้วจะดูรู้เรื่องไหมนั่น? ไม่มีกติการตายตัวว่าหนังสั้นจะต้องดูแล้วรู้เรื่องหรือเปล่า เพราะ เล่าเรื่องในลักษณะใดก็ได้ ทำได้แม้กระทั่งเป็นเพียง Concept หรือบอกอะไรบางอย่างให้แก่คนดูโดยที่คนดูก็ไปคิดไปตีความกันเอาเอง
ถ้าพูดถึงหนังสั้นในบ้านเรา แนวทางที่นิยมสร้างกันก็ไม่ได้มีหลากหลายอะไร เช่น โรแมนติก (นักศึกษาภาพยนตร์ดูเหมือนจะชอบทำแนวนี้มากที่สุด น่าจะเพราะได้อิทธิพลจากหนังรักเกาหลี),สยองขวัญ,ตลก,แอ็คชั่น และหนังทดลอง หนังที่เป็นการลองนำเสนอภาพและเสียงด้วยวิธีการใหม่ๆ เพื่อดูว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แต่สำหรับหนังทดลองแล้ว ลำพังแค่เอากล้องไปถ่ายเหวี่ยงๆ แปลกๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นหนังทดลองแล้ว แต่คนทำจะต้องรู้ด้วยว่ากำลังพยายามทำอะไร หรือกำลังพยายามทดลองอะไรอยู่
สำหรับมือใหม่ที่อยากทำหนังสั้น ผมขอแนะนำให้เริ่มต้นจากการทำหนังสองแบบ คือหนึ่ง หนังเล่าเรื่องปรกติที่เล่าเรื่องง่ายๆ และสองคือ หนังสารคดี แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้น ก็ต้องติดตามจากบทต่อไปครับ
